วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ICHI : บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)


เว็ปบริษัทฯ  เกี่ยวกับหลักทรัพย์  กราฟราคา  ราคาล่าสุด  บันทึก


กราฟ 20/2/58


รวมข่าวจากสื่อต่างๆ/นักวิเคราะห์/ห้องไลน์

ICHI

28/1/58

ICHI BB Consensus=23.88
ไตรมาส 3/57 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 266.2 ลบ.
กวาดมาร์เก็ตแชร์ 44.5% ครองแชมป์ตลาดชาพร้อมดื่ม Q3/57 ฟันกำไร 266 ลบ. ปักธงตลาดอินโดฯ ตั้งเป้ายอดขาย 5 ปี (58-61) แตะ 1 หมื่นลบ. ดันยอดขายรวมของบริษัทฯ ทะลุ 2.5 หมื่นลบ. เล็งลงทุนสร้างโรงงานผลิตในอินโดฯ หากทำยอดขายถึง 1 พันลบ.ในปีหน้า ขณะที่คงเป้ารายได้ปีนี้โต 10-20% แตะ 7 พันลบ. ยันไม่มีนโยบายเพิ่มทุน แม้ขยายการลงทุนต่อเนื่อง เล็งเวียดนามเป็นตลาดต่อไป
-นสพ.รายงาน ตั้งเป้ากำไรปีนี้เติบโต 10-15% รายได้ทะลุ 600 ล้านบาท เดินหน้าเพิ่มกำลังผลิต-ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ บุกตลาดต่างประเทศ ลดการจ้างผลิตและรับจ้างผลิตแทน พร้อมบริหารต้นทุนให้เกินประสิทธิภาพ
ข่าวหุ้น - ICHI โดดเด่นสุดกลุ่มเครื่องดื่ม โบรกฯ เชียร์ "ทยอยซื้อ" ราคาเป้าหมาย 24 บาทต่อหุ้น คาดปี 58 รายได้-กำไรโต 30% จากปีนี้ลุ้นมีรายได้ 6,960 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,184 ล้านบาท เชื่อยอดขายอินโดนีเซียเพิ่ม-ต้นทุนการผลิตลดลง

16/1/58

AECS : ICHI (BUY : TP 24.30) “ Worth the risk “ เราเริ่มต้นคำแนะนำ ซื้อ ด้วยเหตุผล 1)  เป็นผู้นำการผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชาเขียวและ สมุนไพรพร้อมดื่มในประเทศ  โดยมีจุดแข็งทั้งด้านความสามารถและประสบการณ์ของผู้บริหาร การควบคุมต้นทุนการผลิต การกระจายสินค้าอย่างทั่วถึง และเครื่องหมายการค้าที่แข็งแกร่ง 2) มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยสิ้นปี 2557 ICHI คาดมี Net Debt/Equity เพียง 0.26x พร้อม CFO เฉลี่ยปีละ 953 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอรองรับแผนลงทุนเฉลี่ยปีละ 800 ล้านบาทในช่วง 2 ปีนี้แล้ว และ 3) เราประเมินมูลค่าพื้นฐาน ปี 2558 ที่ 24.30 บาท ด้วยวิธี DCF (WACC 9.0%, Terminal Growth 4.0%) มี Upside 20.3% สะท้อนเป็น PER ปี 58 ที่ 29.0x โดยอยู่ภายใต้ สมมติฐานกรณี Base-Case Scenario คือ 1) การรุกตลาดเครื่องดื่ม ชาเขียว สมุนไพร และน้ำผลไม้ ที่อินโดนีเซียภายใน 5 ปี สามารถแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด 5% 2) รายได้จากน้ำผลไม้ไบเล่ทำได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ โดยปีแรก 1,000 ล้านบาท และภายใน 3-5 ปี 2,500 ล้านบาท และ          3) ธุรกิจเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่มเสียภาษีสรรพสามิตรในอัตรา 20%  จากราคาหน้าโรงงาน
นอกจากนี้จากการศึกษาของเรายังพบว่าแม้ ICHI จะมี Downside Risk กรณี Worst-Case Scenario ซึ่งจะกดดันให้ได้ราคาเป้าหมายที่ 16.6 บาท  คิดเป็น Downside 18% แต่หากพิจารณา Upside Risk กรณี Best-Case Scenario จะได้ราคาเป้าหมายที่ 34.3 บาท คิดเป็น Upside 70% จะเห็นได้ว่า ICHI เป็นหุ้นที่มี Gain/Loss Ratio อยู่ในระดับที่สูงถึง 4 เท่า ซึ่งมีผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับความเสี่ยง
ส่วนการศึกษา Sensitivity Analysis กรณีเสียภาษีสรรพสามิต พบว่า ICHI จะมี Upside risk หากธุรกิจเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่มเสียภาษีสรรพสามิต เพียง 10% จะทำให้ได้ราคาเป้าหมายปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 31.0 บาท แต่กรณีที่ไม่เสียภาษีสรรพสามิตเลย (0%) จะได้ราคาเป้าหมายปรับขึ้นเป็น37.80 บาท เมื่อเทียบกับกรณี Base-Case Scenario ของเราที่คาดไว้ที่อัตรา 20% นับตั้งแต่ช่วง 2H58 เป็นต้นไป (กล่าวคือ การเสียภาษีสรรพสามิตที่ต่ำกว่า Base Case ทุกๆ 10% จะทำให้ราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น 6.80 บาท)
ดูฉบับเต็มได้ที่AECS : ICHI (BUY : TP 24.30) “ Worth the risk “ link-> 


13/1/58

ICHIปีนี้กำไรโต15% เป้ารายได้600ล้าน
(ข่าวหุ้น)

*ICHI

-นสพ.รายงาน ตั้งเป้ากำไรปีนี้เติบโต 10-15% รายได้ทะลุ 600 ล้านบาท เดินหน้าเพิ่มกำลังผลิต-ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ บุกตลาดต่างประเทศ ลดการจ้างผลิตและรับจ้างผลิตแทน พร้อมบริหารต้นทุนให้เกินประสิทธิภาพ

25/12/57

ICHIเด่นสุดกลุ่มเครื่องดื่ม ลุ้นงบปี 58 พุ่ง 30% ยอดขายเพิ่ม-ต้นทุนลด
ICHI โดดเด่นสุดกลุ่มเครื่องดื่ม โบรกฯ เชียร์ "ทยอยซื้อ" ราคาเป้าหมาย 24 บาทต่อหุ้น คาดปี 58 รายได้-กำไรโต 30% จากปีนี้ลุ้นมีรายได้ 6,960 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,184 ล้านบาท เชื่อยอดขายอินโดนีเซียเพิ่ม-ต้นทุนการผลิตลดลง(ข่าวหุ้น)

6/12/57

updated: 06 ธ.ค. 2557 เวลา 14:00:12 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

อิชิตันลุ้นรายได้ปีหน้าแตะ 7,800 ล้านบาท ปักหมุดบุกตลาดเครื่องดื่มชาเขียวอินโดนีเซีย โกยยอดขาย 1,000 ล้านบาท พร้อมจ่อตั้งโรงงาน ชี้ตะลุยตลาดชาCLMV หนุนสัดส่วนรายได้ต่างประเทศโต 10-20%

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจของอิชิตันปี 2558 น่าจะมีรายได้มูลค่าเพิ่มขึ้นแตะ 7,800 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีนี้ประมาณ 25% โดยปีหน้าจะเน้นกลยุทธ์ขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยจะบุกตลาดอินโดนีเซีย ซึ่งมีจำนวนประชากรกว่า 250 ล้านคนอย่างเต็มตัว หลังจากได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนอิชิตันอินโดนีเซีย กับพันธมิตร บริษัท พีที อาทรี่แปซิฟิค จำกัด ในอินโดนีเซีย โดยคาดว่าภายในไตรมาส 2 จะมียอดขายกว่า 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตลาดน้ำชาเขียวในอินโดนีเซียมีศักยภาพการเติบโตสูงมาก เพราะมีมูลค่าตลาดน้ำชาพร้อมดื่มกว่า 7 หมื่นล้านบาท แต่ยังไม่มีเจ้าตลาดที่ชัดเจน แม้ว่าจะมีผู้ผลิตเครื่องดื่มกว่า 10 รายในประเทศ

ทั้งนี้ เป้าหมายของอิชิตันคือการเข้าไปเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำตลาดเครื่องดื่มภายใน 1-2 ปี โดยได้เตรียมงบประมาณการตลาดที่จะใช้กับแผนงานนี้ประมาณ 110 ล้านบาท อีกทั้งยังมีแผนก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องดื่มในอินโดนีเซีย หากสามารถทำยอดขายได้ถึง 1,000 ล้านบาท โดยประเมินมูลค่าการลงทุนก่อสร้างราว 1,000 ล้านบาท และแบ่งกับหุ้นส่วนลงทุนฝ่ายละ 50%

"เราจะเริ่มหาพื้นที่และสร้างโรงงานทันที หากยอดขายเข้าเป้า 1,000 ล้านบาทซึ่งคงทำได้แน่นอน เพราะพันธมิตรมีเครือข่ายร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต โมเดิร์นเทรด กว่า 10,000 สาขา ทั่วอินโดนีเซีย"

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการขยายตลาดไปยัง CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) ว่า ตลาดเหล่านี้จะช่วยเสริมสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศให้เพิ่มขึ้นถึง 10-20% เมื่อเทียบกับยอดขายทั้งหมดในปีหน้า แต่จะยังไม่มีการลงทุนเพิ่มเติมในประเทศดังกล่าว เนื่องจากต้องการดูความสำเร็จในอินโดนีเซียก่อน ส่วนประเทศถัดไป อาจจะเป็นเวียดนาม เพราะมีศักยภาพเติบโต

ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2557 แม้คาดว่ารายได้ของบริษัทในปีนี้จะต่ำกว่าเป้าหมาย หรือลดลงประมาณ 3% จากช่วงปีก่อนที่ทำไว้ได้ 6,400 ล้านบาท เนื่องจากประสบปัญหากำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัว แต่คาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 30% จากปีก่อนที่ทำได้ 885 ล้านบาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากกำลังการผลิตที่เพิ่มมากขึ้น หลังจากโรงงานเฟส 2 เสร็จสมบูรณ์ ทำให้อิชิตันลดอัตราการว่าจ้างผลิต (OEM) ลงเหลือ 1% และทำให้ผลกำไรสุทธิเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

"ในไตรมาส 4 นี้ บริษัทมีแผนรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยจะส่งผลิตภัณฑ์ชาเขียวรสชาติใหม่ อิชิตัน รสลิ้นจี่ ออกสู่ตลาด และคาดว่าจะกวาดยอดขายได้เป็นอย่างมาก แม้ว่าตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศไทยจะแข่งขันดุเดือด แต่เราก็ยังครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 45% ขณะที่โออิชิมีส่วนแบ่งตลาด 37% เพียวริคุ 8% และลิปตัน 4% ส่วนอัตรากำไรของบริษัทก็สูงกว่า 14-15% แซงหน้าเบอร์ 2 ของตลาดที่มีอัตรากำไรเพียง 2-3%" นายตันกล่าว

4/12/57

อิชิตันโกยยอดขายCLMV-อินโดฯปั๊มรายได้ตปท.โต20%

1/12/57

CIMB - Themes Play : ICHI : เราปรับประมาณการรายได้และกำไร ICHI ในปี 15-16 ดังนี้ ปัจจัยบวก รายได้เพิ่มขึ้นจาก 1) กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 2) เปิดตัวแบรนด์ “ไบเล่” และ 3) เริ่มขยายสู่ประเทศอินโดนีเซีย  ทางด้านปัจจัยลบ เรารวมประมาณการการเก็บภาษีสรรพสามิตที่ 20% ตั้งแต่ 2Q15 เป็นต้นไป และผลขาดทุนจากการเริ่มต้นธุรกิจที่อินโดนีเซีย อย่างไรก็ตามเราปรับราคาเป้าหมายขึ้นจาก 22 บาท เป็น 26.70 บาท โดยเป็นการเลื่อนปีฐานเป็น CY16 (P/E 20.7 เท่า) และปรับคำแนะนำจาก ถือ เป็น ซื้อ เนื่องจากเราเชื่อว่าราคาหุ้นที่ลดลงอย่างต่อเนื่องได้สะท้อนปัจจัยลบต่างๆไปแล้ว

...


8.ICHI CIMB tp 26.70 แย้มงบQ4สุดหรู ปีนี้กำไรพุ่ง 1.1 พันล้าน เหตุลดการจ้างผลิตลง หนุนมาร์จิ้นสูงขึ้น ส่วนรายได้ปีนี้ 6,500 ล้าน ขณะที่ปี 2558 วางเป้ารายได้โต 10% รับแผนขยายตลาดส่งออกเพิ่ม ไตรมาส3/57 กำไร 266 ล้านเพิ่มจากปีก่อนที่ 163 ล้าน -จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับพันธมิตร เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มแบรนด์อิชิตัน ในประเทศอินโดนีเซีย ผ่านร้านค้าปลีกของพันธมิตร ภายใต้ชื่อ Alfa Mart และ Lawson ที่มีกว่า 10,000 สาขาทั่วประเทศ โดยมีเป้ายอดขาย 1,000 ล้านบาท ในปี 2558 หลังจากนั้นจะสร้างโรงงานคาดว่าจะแล้วเสร็จอย่างเร็วภายในกลางปี 2559 รวม ถึงเพิ่มช่องทางการจำหน่าย และนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่อง เพื่อเป้าหมายยอดขาย 10,000 ล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า(ทันหุ้น ข่าวหุ้น)

25/11/57

วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน 2557 
จำนวนผู้อ่าน : 0 คน 

"อิชิตัน" แย้มงบไตรมาส 4/57 แจ่ม! รับกำลังซื้อฟื้น การันตีกำไรสุทธิปี 2557 พุ่งทะลุ 1,100 ล้าน เหตุลดการจ้างผลิตลง หนุนมาร์จิ้นสูงขึ้น ส่วนรายได้ปีนี้ 6,500 ล้าน ขณะที่ปี 2558 วางเป้ารายได้โต 10% รับแผนขยายตลาดส่งออกเพิ่ม

แหล่งข่าวจากฝ่ายบริหารบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/57 จะเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,225 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 178 ล้านบาท เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคสูงขึ้นรับเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเหตุความวุ่นวายทางการเมือง และสภาพอากาศในปีนี้ไม่หนาวเหมือนช่วงปีก่อน ทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้น

สำหรับรายได้ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 6,400-6,500 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 6,484 ล้านบาท และต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโต 20% จากปีก่อน เนื่องจากในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ต.ค. 57) ภาพรวมตลาดชาพร้อมดื่มลดลงประมาณ 4-5% จากมูลค่าตลาดรวมที่ 16,000 ล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอ จากเหตุความวุ่นวายทางการเมืองตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาด (market share) ที่ประมาณ 44% ของตลาดรวม และบริษัทตั้งงบการตลาดไว้ที่ประมาณ 14% ของรายได้รวมต่อปี

ส่วนกำไรสุทธิในปีนี้คาดว่าจะมีเติบโตที่ประมาณ 1,100-1,150 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 884 ล้านบาท ซึ่งกำไรสุทธิที่เติบโตมากว่ารายได้ เนื่องจากบริษัทได้ลดสัดส่วนของการว่าจ้างผู้อื่นผลิตให้ (OEM) จากปีก่อนอยู่ที่ 25% ลดลงเหลือต่ำกว่า 10% ในปี 2557 ขณะที่ในช่วงไตรมาส 3/57 บริษัทมีสัดส่วน OEM อยู่ที่ 1%    อีกทั้งในปีนี้บริษัทมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ประมาณ 7 รายการ (SKU) เช่น อิชิตัน ซีเล็คเต็ด, น้ำเก๊กฮวยผสมน้ำผึ้ง ตราเย็นเย็น, เย็นเย็น ยักษ์ เป็นต้น และในช่วงเดือนธ.ค.นี้บริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีกจำนวน 1 รายการ

แหล่งข่าวฯ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2558 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 10% จากปีนี้ และคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตมากกว่าปีนี้ โดยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เบื้องต้นคาดว่าจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวน 5 รายการ เพิ่มสัดส่วนรายได้จากการส่งออกจากปัจจุบันที่ประมาณ 0.5% และคาดว่าในปี 2558 จะเพิ่มเป็น 5%

โดยจะรุกตลาดเพื่อนบ้านในแถบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เช่น ประเทศพม่า ลาว และอินโดนีเซีย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทรุกขยายตลาดการส่งออกเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีกำลังผลิตเพียงพอต่อการจำหน่ายภายในประเทศและเหลือสต็อก อีกทั้งจะเริ่มผลิตเครื่องดื่มในเครื่องหมายการค้า "ไบเล่" รุกตลาดระดับพรีเมี่ยมมากขึ้น โดยตั้งเป้ายอดขายในปี 2558 จะอยู่ที่ระดับ 800-1,000 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทเชื่อว่าแบรนด์สินค้าเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิต 800 ล้านขวดต่อปี และในช่วงปลายปี 2557 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านขวดต่อปี จากการขยายไลน์ผลิตเพิ่มอีก 1 ไลน์ผลิต และในปี 2558 จะเพิ่มอีก และในช่วงปลายปี 2557 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านขวดต่อปี จากการขยายไลน์ผลิตเพิ่มอีก 1 ไลน์ผลิต ส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 1,200 ล้านขวดต่อปี ส่วนกำลังการผลิตแบบกล่องยังเท่าเดิมที่ 200 ล้านกล่องต่อปี หรือคิดเป็นมูลค่ากำลังการผลิตใหม่ทั้งแบบขวดและแบบกล่องที่ประมาณ 14,000 ล้านบาทต่อปี

...

ICHIแย้มงบQ4สุดหรู ปีนี้กำไรพุ่ง 1.1 พันล้าน
"อิชิตัน" แย้มงบไตรมาส 4/57 แจ่ม! รับกำลังซื้อฟื้น การันตีกำไรสุทธิปี 2557 พุ่งทะลุ 1,100 ล้าน เหตุลดการจ้างผลิตลง หนุนมาร์จิ้นสูงขึ้น ส่วนรายได้ปีนี้ 6,500 ล้าน ขณะที่ปี 2558 วางเป้ารายได้โต 10% รับแผนขยายตลาดส่งออกเพิ่ม

19/11/57

5.ICHI ไตรมาส3/57 กำไร 266 ล้านเพิ่มจากปีก่อนที่ 163 ล้าน -จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับพันธมิตร เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มแบรนด์อิชิตัน ในประเทศอินโดนีเซีย ผ่านร้านค้าปลีกของพันธมิตร ภายใต้ชื่อ Alfa Mart และ Lawson ที่มีกว่า 10,000 สาขาทั่วประเทศ โดยมีเป้ายอดขาย 1,000 ล้านบาท ในปี 2558 หลังจากนั้นจะสร้างโรงงานคาดว่าจะแล้วเสร็จอย่างเร็วภายในกลางปี 2559 รวม ถึงเพิ่มช่องทางการจำหน่าย และนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่อง เพื่อเป้าหมายยอดขาย 10,000 ล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า(ทันหุ้น)

ICHIแย้มงบQ4สุดหรู
ปีนี้กำไรพุ่ง1.1พันล้าน

16/9/57

(+) ICHI ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ซื้อ (จากเดิมถือ) ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2015 30 บาท 1) คาดยอดขายปี 2016 โต 33% หลังร่วมทุนกับ PT AtriPasifik 2) คาดอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยดีขึ้นเป็น 35% จากเฉลี่ยปี 2012-13 ที่ราว 30% หลังขยายโรงงานใหม่ 3) ใช้เงินลงทุนในตลาดอินโดนีเซียต่ำแต่ทำกำไรได้สูง คาดงบลงทุนหลักๆมีเพียงค่าการตลาดราว 150 ล้านบาท ส่วนการผลิตส่วนใหญ่มาจากโรงงานในไทยที่เพิ่งขยายกำลังการผลิตไป




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น